ความชานแบค #cbism
1. ความเป็นเพื่อน
"เอ้า! พักซ้อม!" เสียงของพี่ชิมแจวอน นักออกแบบท่าเต้นมือหนึ่งของค่ายเอ่ยขึ้นเป็นสัญญาณให้เด็กๆ เก้าคนในห้องแผ่สารร่างชุ่มเหงื่อนอนกันที่พื้นแบบไม่สนใจใยดีอะไรอีก
เอ็กโซกำลังอยู่ในช่วงซ้อมหนักสำหรับคอนเสิร์ต ตามมาด้วยการคัมแบ๊คที่รอคอยมานาน เมมเบอร์ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
และเดินหน้าเต็มที่สำหรับการแสดงที่ดีที่สุดเพื่อแฟนๆ ที่กำลังตั้งตารอ
ชานยอลหันไปมองเพื่อนโวคอลไลน์ไซส์มินิทั้งสามที่นอนพิงกันอย่างหมดแรง ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่คนตรงกลางเป็นพิเศษ
ผมสีน้ำผึ้งยิ่งทำให้ใบหน้าน่ารักดูเด็กลงกว่าเดิมมาก แว่บหนึ่งเขาก็นึกอิจฉา แบคฮยอนจะทำผมสีอะไรทรงอะไรก็ยังดูน่ารัก
ไม่ว่าจะสีม่วงไวน์ น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน สีทองหรือแม้แต่ดำสนิทอย่างเช่นอัลบั้มก่อนหน้านี้
ทุกแบบทุกสไตล์ดูเหมาะไปเสียหมดจนเขานึกหมั่นไส้อยากจะยุให้สไตล์ลิสท์ย้อมมันสักเจ็ดสีเหมือนที่เคยทำกับเซฮุน
แต่คิดว่าถึงแบคฮยอนทำแล้วก็ยังไงก็คงดูน่าฟัดไม่ต่างจากเดิมอยู่ดี
"ไปไกลๆ น่าแบคฮยอน เหม็นเหงื่อ" เพื่อนซี้กัปตันบีเกิ้ลผลักหัวเจ้าเด็กซนที่เริ่มถูไถอยู่ไม่สุขออกไปอีกทาง
แต่อย่างพยอนแบคฮยอนน่ะเหรอ ไม่มีทางสลดกับอะไรได้เกินสามวินาทีอยู่แล้ว ตาแป๋วๆ ดูไร้เดียงสาช้อนขึ้นมองแล้วก็ทำเสียงงุ้งงิ้งๆ ไม่หยุด
"ขอพิงหน่อยน่า~ เนี่ย เหนื๊อยเหนื่อย คอแห้ง หมดแรง ไม่ไหวแล้ว~"
ยิ่งเห็นแบบนั้นชานยอลก็ยิ่งหมั่นไส้ ทั้งๆที่เมมเบอร์คนอื่นๆ ในวงหัวเราะขำท่าทางของแบคฮยอนด้วยความเอ็นดู
แต่ไม่รู้ล่ะ จะว่าเขาขี้น้อยใจก็ได้ แบคฮยอนน่ะเล่นเลื้อยใส่คนอื่นไปทั่ว ไม่ว่าจะกับใครที่ไหน หน้ากล้องหลังกล้องก็ไม่เว้น
มีแต่ชานยอลคนเดียวนั่นแหละที่แบคฮยอนไม่ค่อยจะถึงเนื้อถึงตัว เคยงอนกันขนาดที่พี่ซูโฮต้องเรียกมาเปิดใจเคลียร์ไปรอบนึงแล้ว
แต่เจ้าตัวเล็กก็ดีแต่บอกว่า เพื่อนกันเค้าไม่เล่นกันแบบนั้น แล้วเดินหนีไปเลย จนทุกวันนี้ชานยอลยังสงสัยอยู่ว่าแล้วเพื่อนกันมันต้องเล่นกันแบบไหน?
ก็เห็นแบคฮยอนทำอ้อล้อใส่ใครต่อใครไปทั่ว ทำไมมาสองมาตรฐานใส่เขาอยู่คนเดียวแบบนี้
"หิวน้ำก็เดินไปซื้อ งอแงอยู่แบบนี้มันคงจะหายหรอก" ดีโอตบหัวแบคฮยอนไปทีนึงเบาๆจนเส้นผมสีน้ำผึ้งชื้นเหงื่อกระจายไม่เป็นทรง
เจ้าตัวยังคงยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้านกับอะไรอยู่นั่นแหละ จะไม่ให้คอแห้งได้ไง ก็ตอนซ้อมเต้น ดันแหกปากร้องเอะอะโวยวายอยู่คนเดียว
ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็พูดไม่หยุดจนทุกคนแทบอยากจะหาอะไรยัดปากเล็กๆ นั่นให้เงียบสักที
แรงสะกิดที่ข้อศอกเบาๆ ถูกส่งมาจากเซฮุนที่นั่งข้างๆ พร้อมสายตาที่ตีความได้ว่า ช่วยจัดการตัวน่ารำคาญให้หน่อย
ชานยอลได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินตรงไปหาตัวป่วนที่กลับมาฮัมเพลงหงุงหงิงต่อ
"ไปซื้อน้ำกัน เดี๋ยวเลี้ยง"
"จริงนะ? งั้นเหมาหมดตู้เลยได้ป่ะ?"
"เออ ถ้ามีปัญญากด"
มือใหญ่ออกแรงฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้ววาดท่อนแขนโอบบ่าล็อคคอแบคฮยอนหลวมๆ มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาขยี้ผมชุ่มเหงื่อเบาๆ จนคนโดนกระทำร้องโวยวาย
ดึงแขนดึงมือออกทั้งที่ยังคงยิ้มเต็มแก้ม ภาพการหยอกล้อของเด็กสองคนทำเอาเพื่อนในวงได้แต่มองตาม สักพักชานยอลก็เดินไปรื้อกระเป๋า
หยิบเอาผ้าขนหนูมาโยนใส่หัวเจ้าลูกหมา มือใหญ่ดึงผ้ามาซับเม็ดเหงื่อตามลำคอและไรผมให้แรงๆ แม้ท่าทางที่ทำจะดูเหมือนแกล้ง
แต่ในสายตากลับเต็มไปด้วยความเอาใจใส่
เพื่อนกันต้องดูแลกันดีขนาดนี้ด้วยเหรอ?
"มีใครเอาอะไรมั้ย? ไปด้วยกันป่าว?" ชานยอลเอ่ยถามแต่ทุกคนได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไม่ใช่ว่าไม่หิวน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะไปในฐานะอะไรต่างหาก
ก็ดูเหมือนว่าชานยอลจะมี เพื่อน ไปด้วยแล้วนี่นา...
ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องซ้อม มุ่งหน้าไปทางโรงอาหารที่อยู่ชั้นล่างของตึก ระหว่างทางก็เจอรุ่นน้องที่เป็นเด็กเทรนทักทายไม่หยุด
ชานยอลก็ยังคงเอาแขนพาดบ่าแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น มันเป็นภาพที่ชินตาทุกคนไปซะแล้วจนกระทั่งทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้เครื่องดื่มแบบหยอดเหรียญ
แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด นิ้วยาวๆของชานยอลกดปุ่มน้ำมะพร้าวกระป๋อง หยอดเหรียญแล้วกดปุ่มยืนยันแบบไม่ต้องถามไถ่
แบคฮยอนชอบอะไรไม่ชอบอะไรเขารู้ทั้งหมดนั่นแหละ ก็เพื่อนที่ดีต้องรู้ใจเพื่อนไม่ใช่เหรอ?
แบคฮยอนขยับมายืนหน้าตู้บ้าง เขาหยิบเอาเหรียญที่ชานยอลส่งให้หยอดลงไปแล้วกดน้ำส้มกระป๋องออกมา ทำเอาชานยอลเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
"เมื่อวานนายอยู่อัดท่อนแรปจนดึก เสียงแหบหมดแล้ว ดื่มโคล่าไปเดี๋ยวก็ยิ่งจะแสบคอเปล่าๆ" เพื่อนตัวเล็กพูดขึ้นมาพลางก้มหยิบกระป๋องเครื่องดื่มขึ้นมาส่งให้
ชานยอลแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เขาได้แต่รับน้ำส้มมาเปิดกระป๋องโดยไม่พูดไม่จาอะไร ก็แค่ดีใจที่คนข้างๆใส่ใจเขา
แบคฮยอนที่ดูจะห้าวๆ ไม่ค่อยสนใจอะไรในสายตาคนอื่น ที่จริงแล้วกลับเป็นคนที่คิดมากกว่าใครๆ แถมยังละเอียดอ่อนมากกว่าท่าทีภายนอก
ชานยอลรู้ดี และบางทีอาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำ
"ไปนั่งเล่นดาดฟ้าไหม?"
"ไม่อ่ะ ร้อน!"
"งั้นกลับห้องซ้อมกัน"
"หึ ยังไม่อยากกลับอ่ะ"
"แล้วจะไปไหน?"
"นั่งอยู่ตรงนี้แหละ"
คนตัวเล็กว่าพลางเดินไปหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ยาวริมผนัง ทั้งสองคนได้แต่นั่งดื่มน้ำเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร แต่บรรยากาศกลับไม่ได้อึดอัด สักพักกระป๋องน้ำส้มก็ว่างเปล่า
แรปเปอร์ตัวสูงชู้ตกระป๋องเปล่าลงถังขยะได้พอดิบพอดี ก่อนจะเหลือบมาเห็นแบคฮยอนยกน้ำมะพร้าวกระป๋องดื่มรวดเดียว
แต่เพราะซุมซ่ามหรืออะไรไม่รู้ จู่ๆ เมนโวคอลตัวเล็กก็สำลักพรวด เครื่องดื่มสีขาวขุ่นไหลเลอะออกมาจากริมฝีปากบาง
ย้อยไปตามคางเรียวไม่วายเปรอะลงบนเสื้อตัวเก่งของชานยอลที่ไปขโมยมาใส่
“แค่กๆ!!!”
“เอ้า กินยังไงเนี่ย”
มือใหญ่ส่งไปลูบหลังขณะที่มืออีกข้างก็ดึงกระป๋องน้ำมะพร้าวออกมาถือไว้ให้ แบคอยอนสำลักไอจนหูแดง ส่งเสียงอึกอักในลำคอ
ดวงตาคู่เล็กฉ่ำชื้น ขณะที่เบ้ปาก เด็กหนุ่มตัวเล็กไอออกมาดังๆ อีกสองสามทีให้คอโล่ง ก่อนจะพรูลมหายใจออกเฮือกใหญ่
“นึกว่าจะตายซะแล้ว”
“เออ เนี่ย เลอะเทอะไปหมด ทำไงล่ะ ทิชชู่ก็ไม่มี” ชานยอลว่าพลางมองรอยน้ำมะพร้าวที่ตอนนี้ไหลลงไปถึงลำคอขาวๆ นั่นแล้ว
...โอเค เขากำลังคิดไปไกล ไกลมาก...
มากกว่าคำว่าเพื่อนซะด้วย
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาเสื้อเช็ด--”
ถ้อยคำชะงักค้างกลางอากาศเมื่อเพื่อนร่วมวงตัวสูงโน้มใบหน้าเข้ามาก่อนจะแตะปลายลิ้นไล่เลียคราบหวานๆ ตั้งแต่ปลายคางขึ้นมาถึงมุมปาก
และสาบานได้—แม้จะแค่เสี้ยววินาทีเดียว แต่แบคฮยอนคิดว่าริมฝีปากของพวกเขาทั้งคู่แตะโดนกันจริงๆ
“เช็ดให้เรียบร้อยแล้ว ป่ะ กลับห้องซ้อมกัน” ปาร์คชานยอลผละออกไปแล้วพูดออกมาได้หน้าตาเฉย เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นเพื่อนเขาทำกัน
ให้ตายเถอะ!
พ่อ! แม่! พี่แบคบอม! มงรยง!
พยอนแบคฮยอนไม่เข้าใจ...
สรุปว่าเขากับชานยอลเป็นเพื่อนแบบไหนกันแน่?
แก้ไขล่าสุดโดย Younsae เมื่อ Tue Aug 16, 2016 10:13 pm, ทั้งหมด 7 ครั้ง