บอร์ดสำหรับหนุ่มสาวชาววายสาย Fiction แห่ง SM TOWN

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
บอร์ดสำหรับหนุ่มสาวชาววายสาย Fiction แห่ง SM TOWN

เป็นบอร์ดสำหรับให้ เหล่านักเขียนสายวายและไม่วายค่าย SM เน้น EXO, NCT มาลงงานเขียนโดยเฉพาะนะครัช 3


    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek

    avatar
    Younsae


    จำนวนข้อความ : 3
    Join date : 16/08/2016
    Age : 36

    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek Empty [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek

    ตั้งหัวข้อ by Younsae Tue Aug 16, 2016 4:59 pm

    ความชานแบค #cbism

    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek Mud08p
    1. ความเป็นเพื่อน

    "เอ้า! พักซ้อม!" เสียงของพี่ชิมแจวอน นักออกแบบท่าเต้นมือหนึ่งของค่ายเอ่ยขึ้นเป็นสัญญาณให้เด็กๆ เก้าคนในห้องแผ่สารร่างชุ่มเหงื่อนอนกันที่พื้นแบบไม่สนใจใยดีอะไรอีก

    เอ็กโซกำลังอยู่ในช่วงซ้อมหนักสำหรับคอนเสิร์ต ตามมาด้วยการคัมแบ๊คที่รอคอยมานาน เมมเบอร์ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
    และเดินหน้าเต็มที่สำหรับการแสดงที่ดีที่สุดเพื่อแฟนๆ ที่กำลังตั้งตารอ

    ชานยอลหันไปมองเพื่อนโวคอลไลน์ไซส์มินิทั้งสามที่นอนพิงกันอย่างหมดแรง ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่คนตรงกลางเป็นพิเศษ
    ผมสีน้ำผึ้งยิ่งทำให้ใบหน้าน่ารักดูเด็กลงกว่าเดิมมาก แว่บหนึ่งเขาก็นึกอิจฉา แบคฮยอนจะทำผมสีอะไรทรงอะไรก็ยังดูน่ารัก
    ไม่ว่าจะสีม่วงไวน์ น้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน สีทองหรือแม้แต่ดำสนิทอย่างเช่นอัลบั้มก่อนหน้านี้
    ทุกแบบทุกสไตล์ดูเหมาะไปเสียหมดจนเขานึกหมั่นไส้อยากจะยุให้สไตล์ลิสท์ย้อมมันสักเจ็ดสีเหมือนที่เคยทำกับเซฮุน
    แต่คิดว่าถึงแบคฮยอนทำแล้วก็ยังไงก็คงดูน่าฟัดไม่ต่างจากเดิมอยู่ดี

    "ไปไกลๆ น่าแบคฮยอน เหม็นเหงื่อ" เพื่อนซี้กัปตันบีเกิ้ลผลักหัวเจ้าเด็กซนที่เริ่มถูไถอยู่ไม่สุขออกไปอีกทาง
    แต่อย่างพยอนแบคฮยอนน่ะเหรอ ไม่มีทางสลดกับอะไรได้เกินสามวินาทีอยู่แล้ว ตาแป๋วๆ ดูไร้เดียงสาช้อนขึ้นมองแล้วก็ทำเสียงงุ้งงิ้งๆ ไม่หยุด

    "ขอพิงหน่อยน่า~ เนี่ย เหนื๊อยเหนื่อย คอแห้ง หมดแรง ไม่ไหวแล้ว~"
    ยิ่งเห็นแบบนั้นชานยอลก็ยิ่งหมั่นไส้ ทั้งๆที่เมมเบอร์คนอื่นๆ ในวงหัวเราะขำท่าทางของแบคฮยอนด้วยความเอ็นดู
    แต่ไม่รู้ล่ะ จะว่าเขาขี้น้อยใจก็ได้ แบคฮยอนน่ะเล่นเลื้อยใส่คนอื่นไปทั่ว ไม่ว่าจะกับใครที่ไหน หน้ากล้องหลังกล้องก็ไม่เว้น
    มีแต่ชานยอลคนเดียวนั่นแหละที่แบคฮยอนไม่ค่อยจะถึงเนื้อถึงตัว เคยงอนกันขนาดที่พี่ซูโฮต้องเรียกมาเปิดใจเคลียร์ไปรอบนึงแล้ว
    แต่เจ้าตัวเล็กก็ดีแต่บอกว่า เพื่อนกันเค้าไม่เล่นกันแบบนั้น แล้วเดินหนีไปเลย จนทุกวันนี้ชานยอลยังสงสัยอยู่ว่าแล้วเพื่อนกันมันต้องเล่นกันแบบไหน?
    ก็เห็นแบคฮยอนทำอ้อล้อใส่ใครต่อใครไปทั่ว ทำไมมาสองมาตรฐานใส่เขาอยู่คนเดียวแบบนี้

    "หิวน้ำก็เดินไปซื้อ งอแงอยู่แบบนี้มันคงจะหายหรอก" ดีโอตบหัวแบคฮยอนไปทีนึงเบาๆจนเส้นผมสีน้ำผึ้งชื้นเหงื่อกระจายไม่เป็นทรง
    เจ้าตัวยังคงยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้านกับอะไรอยู่นั่นแหละ จะไม่ให้คอแห้งได้ไง ก็ตอนซ้อมเต้น ดันแหกปากร้องเอะอะโวยวายอยู่คนเดียว
    ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็พูดไม่หยุดจนทุกคนแทบอยากจะหาอะไรยัดปากเล็กๆ นั่นให้เงียบสักที

    แรงสะกิดที่ข้อศอกเบาๆ ถูกส่งมาจากเซฮุนที่นั่งข้างๆ พร้อมสายตาที่ตีความได้ว่า ช่วยจัดการตัวน่ารำคาญให้หน่อย
    ชานยอลได้แต่หัวเราะเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินตรงไปหาตัวป่วนที่กลับมาฮัมเพลงหงุงหงิงต่อ

    "ไปซื้อน้ำกัน เดี๋ยวเลี้ยง"

    "จริงนะ? งั้นเหมาหมดตู้เลยได้ป่ะ?"

    "เออ ถ้ามีปัญญากด"
    มือใหญ่ออกแรงฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้ววาดท่อนแขนโอบบ่าล็อคคอแบคฮยอนหลวมๆ มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาขยี้ผมชุ่มเหงื่อเบาๆ จนคนโดนกระทำร้องโวยวาย
    ดึงแขนดึงมือออกทั้งที่ยังคงยิ้มเต็มแก้ม ภาพการหยอกล้อของเด็กสองคนทำเอาเพื่อนในวงได้แต่มองตาม สักพักชานยอลก็เดินไปรื้อกระเป๋า
    หยิบเอาผ้าขนหนูมาโยนใส่หัวเจ้าลูกหมา มือใหญ่ดึงผ้ามาซับเม็ดเหงื่อตามลำคอและไรผมให้แรงๆ แม้ท่าทางที่ทำจะดูเหมือนแกล้ง
    แต่ในสายตากลับเต็มไปด้วยความเอาใจใส่

    เพื่อนกันต้องดูแลกันดีขนาดนี้ด้วยเหรอ?

    "มีใครเอาอะไรมั้ย? ไปด้วยกันป่าว?" ชานยอลเอ่ยถามแต่ทุกคนได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไม่ใช่ว่าไม่หิวน้ำ แต่เพราะไม่รู้จะไปในฐานะอะไรต่างหาก
    ก็ดูเหมือนว่าชานยอลจะมี เพื่อน ไปด้วยแล้วนี่นา...

    ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องซ้อม มุ่งหน้าไปทางโรงอาหารที่อยู่ชั้นล่างของตึก ระหว่างทางก็เจอรุ่นน้องที่เป็นเด็กเทรนทักทายไม่หยุด
    ชานยอลก็ยังคงเอาแขนพาดบ่าแบคฮยอนอยู่อย่างนั้น มันเป็นภาพที่ชินตาทุกคนไปซะแล้วจนกระทั่งทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้เครื่องดื่มแบบหยอดเหรียญ

    แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด นิ้วยาวๆของชานยอลกดปุ่มน้ำมะพร้าวกระป๋อง หยอดเหรียญแล้วกดปุ่มยืนยันแบบไม่ต้องถามไถ่
    แบคฮยอนชอบอะไรไม่ชอบอะไรเขารู้ทั้งหมดนั่นแหละ ก็เพื่อนที่ดีต้องรู้ใจเพื่อนไม่ใช่เหรอ?

    แบคฮยอนขยับมายืนหน้าตู้บ้าง เขาหยิบเอาเหรียญที่ชานยอลส่งให้หยอดลงไปแล้วกดน้ำส้มกระป๋องออกมา ทำเอาชานยอลเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

    "เมื่อวานนายอยู่อัดท่อนแรปจนดึก เสียงแหบหมดแล้ว ดื่มโคล่าไปเดี๋ยวก็ยิ่งจะแสบคอเปล่าๆ" เพื่อนตัวเล็กพูดขึ้นมาพลางก้มหยิบกระป๋องเครื่องดื่มขึ้นมาส่งให้
    ชานยอลแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เขาได้แต่รับน้ำส้มมาเปิดกระป๋องโดยไม่พูดไม่จาอะไร ก็แค่ดีใจที่คนข้างๆใส่ใจเขา
    แบคฮยอนที่ดูจะห้าวๆ ไม่ค่อยสนใจอะไรในสายตาคนอื่น ที่จริงแล้วกลับเป็นคนที่คิดมากกว่าใครๆ แถมยังละเอียดอ่อนมากกว่าท่าทีภายนอก
    ชานยอลรู้ดี และบางทีอาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำ

    "ไปนั่งเล่นดาดฟ้าไหม?"

    "ไม่อ่ะ ร้อน!"

    "งั้นกลับห้องซ้อมกัน"

    "หึ ยังไม่อยากกลับอ่ะ"

    "แล้วจะไปไหน?"

    "นั่งอยู่ตรงนี้แหละ"
    คนตัวเล็กว่าพลางเดินไปหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ยาวริมผนัง ทั้งสองคนได้แต่นั่งดื่มน้ำเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไร แต่บรรยากาศกลับไม่ได้อึดอัด สักพักกระป๋องน้ำส้มก็ว่างเปล่า
    แรปเปอร์ตัวสูงชู้ตกระป๋องเปล่าลงถังขยะได้พอดิบพอดี ก่อนจะเหลือบมาเห็นแบคฮยอนยกน้ำมะพร้าวกระป๋องดื่มรวดเดียว
    แต่เพราะซุมซ่ามหรืออะไรไม่รู้ จู่ๆ เมนโวคอลตัวเล็กก็สำลักพรวด เครื่องดื่มสีขาวขุ่นไหลเลอะออกมาจากริมฝีปากบาง
    ย้อยไปตามคางเรียวไม่วายเปรอะลงบนเสื้อตัวเก่งของชานยอลที่ไปขโมยมาใส่

    “แค่กๆ!!!”

    “เอ้า กินยังไงเนี่ย”
    มือใหญ่ส่งไปลูบหลังขณะที่มืออีกข้างก็ดึงกระป๋องน้ำมะพร้าวออกมาถือไว้ให้ แบคอยอนสำลักไอจนหูแดง ส่งเสียงอึกอักในลำคอ
    ดวงตาคู่เล็กฉ่ำชื้น ขณะที่เบ้ปาก เด็กหนุ่มตัวเล็กไอออกมาดังๆ อีกสองสามทีให้คอโล่ง ก่อนจะพรูลมหายใจออกเฮือกใหญ่

    “นึกว่าจะตายซะแล้ว”

    “เออ เนี่ย เลอะเทอะไปหมด ทำไงล่ะ ทิชชู่ก็ไม่มี” ชานยอลว่าพลางมองรอยน้ำมะพร้าวที่ตอนนี้ไหลลงไปถึงลำคอขาวๆ นั่นแล้ว

    ...โอเค เขากำลังคิดไปไกล ไกลมาก...

    มากกว่าคำว่าเพื่อนซะด้วย

    “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาเสื้อเช็ด--”
    ถ้อยคำชะงักค้างกลางอากาศเมื่อเพื่อนร่วมวงตัวสูงโน้มใบหน้าเข้ามาก่อนจะแตะปลายลิ้นไล่เลียคราบหวานๆ ตั้งแต่ปลายคางขึ้นมาถึงมุมปาก
    และสาบานได้—แม้จะแค่เสี้ยววินาทีเดียว แต่แบคฮยอนคิดว่าริมฝีปากของพวกเขาทั้งคู่แตะโดนกันจริงๆ

    “เช็ดให้เรียบร้อยแล้ว ป่ะ กลับห้องซ้อมกัน” ปาร์คชานยอลผละออกไปแล้วพูดออกมาได้หน้าตาเฉย เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นเพื่อนเขาทำกัน
    ให้ตายเถอะ!

    พ่อ! แม่! พี่แบคบอม! มงรยง!

    พยอนแบคฮยอนไม่เข้าใจ...

    สรุปว่าเขากับชานยอลเป็นเพื่อนแบบไหนกันแน่?


    แก้ไขล่าสุดโดย Younsae เมื่อ Tue Aug 16, 2016 10:13 pm, ทั้งหมด 7 ครั้ง
    avatar
    Younsae


    จำนวนข้อความ : 3
    Join date : 16/08/2016
    Age : 36

    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek Empty [FIC] :: CBism P.2

    ตั้งหัวข้อ by Younsae Tue Aug 16, 2016 5:04 pm



    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek 5816355501
    2. ความเรื่องเยอะ

    "ไม่เอาตัวนี้ ไป ไปเปลี่ยนเลย!"
    แบคฮยอนกลอกตาเป็นรอบที่ร้อยของวัน แล้วจ้องหน้าชานยอลที่สะท้อนในกระจกอย่างหาเรื่อง

    ไม่รู้ปาร์คชานยอลเป็นบ้าอะไร เจ้ากี้เจ้าการเลือกเสื้อผ้าให้เขาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่เสร็จสักที

    ก็ตั้งแต่แบคฮยอนย้ายมานอนห้องนั่งเล่น ชานยอลก็ไปขนเสื้อผ้าของเขามายัดลงในตู้เสื้อผ้าของไคกับดีโอที่มีพื้นที่ว่างอยู่
    แล้วก็ให้เหตุผลว่า แบคฮยอนชอบเดินมาหยิบเสื้อผ้าเขาไปใส่บ่อยๆ อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องวุ่นวายเดินเข้าออกหลายห้อง ซึ่งทีแรกแบคฮยอนเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยอยู่หรอก
    แต่พอเอาเข้าจริง ชานยอลกลับเรื่องเยอะที่สุด วุ่นวายกับเสื้อผ้าหน้าผมเขายิ่งกว่าสไตล์ลิสท์ซะอีก ตัวโน้นก็ไม่ดี ตัวนี้ก็ไม่ให้ใส่
    เขาก็ตามใจมาตลอด ด้วยความเป็นคนชิลล์ๆ แต่ตอนนี้ชักเริ่มจะนอยด์บ้างแล้วว่ามันอะไรกันนักกันหนา

    "อากาศมันร้อน! แขนเสื้อมันก็ยาวรุ่มร่าม! เกะกะไหมเนี่ย!"

    "เกะกะก็ยังดีกว่าใส่เสื้อบางๆแบบนี้ คอก็ลึก ก้มทีพวกบ้านแฟนไซต์ถ่ายเห็นไปถึงไส้ติ่ง!" ไม่ยอมหรอก เขาหวง ประโยคสุดท้ายถูกละไว้ในใจของเพื่อนตัวสูง
    แบคฮยอนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็ได้แต่บ่นอุบอิบ รับเสื้อในมือชานยอลไปเปลี่ยนให้มันจบๆ ไป
    เพราะในห้องมีกันอยู่แค่สองคนเลยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนให้วุ่นวาย
    ลองถ้าจงอินหรือเซฮุนอยู่ด้วยหน่อยไม่ได้ ชานยอลมีโวยวายลั่นหอให้เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

    แม่ยังไม่หวงแบคฮยอนขนาดนี้เลยเถอะ!
    [/color]
    "พอใจยัง?"

    "เออ ไปได้ละ"
    ชานยอลคว้าข้อมือดึงให้แบคฮยอนเดินตามเขาออกมาจากห้อง เมมเบอร์ในวงคนอื่นๆ มองพวกเขาด้วยรอยยิ้มล้อออกแนวรู้ทัน

    “เลือกเสื้อนานขนาดนี้วันหลังช่วยตื่นมาเคลียร์กันให้เสร็จตั้งแต่ตีห้านะครับ พวกฉันนี่นั่งรอจนรากจะงอกอยู่แล้ว” กัปตันบีเกิ้ลเอ่ยแซะเลยโดนแบคฮยอนแยกเขี้ยวใส่ไปทีนึง
    แน่นอนว่าหลังจากนั้นเมมเบอร์ทั้งวงก็โดนด่าหูชาข้อหาลงมาสาย พอพี่ซึงฮวานไล่เบี้ยหาสาเหตุ มักเน่ 94 ไลน์ก็พร้อมใจกันชี้มาทางแบคฮยอน

    โคตรจะซึ้ง

    เมนโวตัวเล็กเบ้ปากเอ่ยขอโทษเสียงหงอยก่อจะก้าวเข้าไปนั่งเบาะท้ายสุดริมหน้าต่างฝั่งคนขับ ชานยอลกับพี่ซูโฮตามเข้ามา
    ปกติแล้วพวกเขาเป็นก๊วนเฮฮาท้ายรถ แต่วันนี้แบคฮยอนหงุดหงิดจริงๆ เขาไม่มีอารมณ์จะเล่นบ้าบอเหมือนทุกวันหรอกนะ

    “เป็นอะไร?” ชานยอลที่เห็นเพื่อนตัวเล็กนั่งเงียบไปตั้งแต่ออกรถก็หันมาถาม อันที่จริงก็รู้อยู่หรอก แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ก็เขาหวงจริงๆนี่นา

    “ยังจะมีหน้ามาถามอีก เพราะใครล่ะถึงได้โดนด่าอ่ะ?”
    รู้ว่าผิดแล้วก็ยังมาตีหน้าซื่อ มันน่ากัดให้หูขาดมั้ยเนี่ย!

    “เดี๋ยวเลี้ยงเนื้อย่างมื้อนึง”

    “โอเค ตามนั้น”
    เหมือนกดสวิตช์สั่งได้ พยอนแบคฮยอนคนป่วนเริ่มส่งเสียงโหวกเหวกดังลั่นรถ บรรยากาศครื้นเครงกลับมาอีกครั้ง ชานยอลได้แต่ยิ้มขำ
    แบคฮยอนก็เป็นซะยังงี้ เป็นเด็กที่โกรธใครได้ไม่เคยนาน ไม่งอแงไม่งี่เง่าไม่เอาแต่ใจ เลี้ยงง่ายแถมยังน่ารักเหมือนลูกหมา

    แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาหวงเพื่อนคนนี้ได้ยังไง...





    แก้ไขล่าสุดโดย Younsae เมื่อ Tue Aug 16, 2016 10:20 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง
    avatar
    Younsae


    จำนวนข้อความ : 3
    Join date : 16/08/2016
    Age : 36

    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek Empty [FIC] :: CBism P.3

    ตั้งหัวข้อ by Younsae Tue Aug 16, 2016 5:07 pm



    [FIC] :: CBism ความชานแบค {P.1-3} #Chanbaek 14l1rgy
    3. ความหนาว

    “เอ้า เอาไป!”
    สเวตเตอร์แขนยาวสีฟ้าอ่อนถูกโยนลงมาคลุมหัวเขา แบคฮยอนบุ้ยปาก หันกลับไปมองตัวคนต้นเรื่องตาขวาง

    “อากาศร้อนออก เอาคืนไป!”

    “อากาศข้างนอกน่ะร้อน แต่ในสตูดิโอเดี๋ยวก็เจอแอร์อีก นายอ่ะ...แค่ขึ้นรถมายังสั่นเป็นลูกหมาเลย เดี๋ยวก็ได้จับไข้จริงๆ หรอก”
    มือใหญ่ถูกส่งมาขยี้เรือนผมสีช็อคโกแลตเบาๆ จนแบคฮยอนนึกเคือง ชานยอลเกิดทีหลังเขาแท้ๆ แต่ทำไมถึงชอบทำเหมือนเขาเป็นเด็กน้อยอยู่เรื่อยเลยนะ ไม่เข้าใจจริงๆ!

    ถึงจะทำเป็นบ่นในใจแต่แบคฮยอนก็เอาสเวตเตอร์มาสวมเสร็จเรียบร้อย ความอบอุ่นจากร่างกายชานยอลถูกเส้นไหมซึบซับเอาไว้แล้วถ่ายทอดสู่ร่างกายของเขา
    แบคฮยอนเผลอยิ้มออกมา เพราะว่าเสื้อชานยอลทุกตัวใส่แล้วอุ่น เขาก็เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบเสื้อผ้าของเพื่อนสนิทตัวโตมาใส่บ่อยๆ

    บางครั้ง... ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้อยู่ในอ้อมกอดของชานยอล...

    “แบคฮยอนเหม่ออะไรน่ะ ถึงสตูดิโอแล้วนะ” จงแดที่นั่งข้างๆหันมาเรียกก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินนำลงไป แบคฮยอนก้าวตามเข้างานมา
    โดยมีชานยอลตามหลัง เขาไม่เห็นดวงตากลมโตที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงของเพื่อนที่ขมวดคิ้วเล็กๆ ด้วยความขัดใจ

    ทั้งๆ ที่รู้ว่าอากาศช่วงนี้สะบัดหนาวสะบัดร้อน แต่แบคฮยอนก็ยังดื้อแพ่งนอนในห้องนั่งเล่น ไล่ให้ไปนอนเตียงพี่เลย์ก่อนก็ไม่ไป
    พอมาสองสามวันนี้ เจ้าตัวเล็กดูซึมๆ เพลียๆ ลงไปถนัดตา แถมเมื่อเช้าเสียงก็ติดจะขึ้นจมูก ไม่ใช่ว่าเป็นหวัดไปแล้วหรอกเหรอ
    ตารางงานมากมายมหาศาลจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างนี้ ถ้าเป็นหนักขึ้นมา เขาต้องแย่แน่ๆ

    ถ้าจะให้ทิ้งแบคฮยอนนอนซมอยูที่หอคนเดียวระหว่างที่ต้องวิ่งออกงานกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ชานยอลคงทนไม่ได้...

    ก็ใครจะไปทิ้งเพื่อนได้ลงคอ...

    พวกเขาก้มหัวทักทายทีมงานและรุ่นพี่ศิลปินบางคนที่มารออยู่ก่อนแล้ว เพียงไม่นานการถ่ายทำก็เริ่มต้น และทุกอย่างดูจะราบรื่นดี
    ทั้งชานยอล แบคฮยอน และจงแดถูกจัดตำแหน่งให้ยืนด้านหน้า เพราะแน่นอนว่าเอ็กโซกำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก

    “เดี๋ยวท่อนต่อไปทุกคนช่วยโบกมือด้วยนะครับ” พีดีตะโกนบอก แล้วกล้องก็เริ่มทำงานอีกครั้ง แบคฮยอนยืดแขนขึ้นโบกมือไปตามจังหวะเพลงอย่างร่าเริง
    เขาหันไปยิ้มกับจงแด แล้วจังหวะนั้นเองที่หางตาเหลือบไปเห็นคนที่ยืนถัดออกไป

    ชานยอลใช้มือหนึ่งจับชายเสื้อตัวเองไว้ เพราะมันดูจะสั้นเกินเมื่อเทียบกับความสูงของเขา แบคฮยอนเห็นขอบกางเกงบ็อกเซอร์ที่โผล่พ้นแนวเข็มขัดแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนี
    รู้สึกเห่อร้อนที่สองข้างแก้ม แถมยังแอบรู้สึกผิดอีกต่างหาก ก็เพราะชานยอลจับได้ว่าเขาไม่ค่อยสบาย เจ้าตัวเลยต้องสละเสื้อให้แบบนี้

    “เดี๋ยวพักกันสักครู่นะครับ ขอเช็คกล้องนิดนึง อย่าเพิ่งเดินไปไหนกันนะครับ” พีดีตะโกนบอกอีกครั้ง เหล่าไอดอลและนักร้องต่างก็ขานรับแล้วหันไปพูดคุยเพื่อฆ่าเวลา
    แบคฮยอนได้แต่มองชานยอลนิ่งก่อนที่เขาจะตัดสินใจถอดเสื้อสเวตเตอร์ออกแล้วฝากจงแดส่งคืนให้เจ้าของ

    “ถอดมาทำไม ใส่กลับไปเลยนะ” คนตัวสูงหันกลับมาถามเสียงเขียว ตั้งท่าจะไม่รับเสื้อจนจงแดได้แต่เลิ่กลั่ก รู้สึกพลาดที่ดันมายืนตรงกลางระหว่างสองคนนี้

    “เอาไปเหอะ เดี๋ยวยืมเสื้อพี่เมเนใส่แทน เสื้อนายมันสั้น รู้ทั้งรู้ก็ยังจะถอดมาให้อีก” แบคฮยอนพูดก่อนจะหันไปมองพี่ผู้จัดการที่ยืนตรงหน้าแล้วส่งภาษามือจนเข้าใจ
    เสื้อคาร์ดิแกนสีเทาถึงถูกส่งมาให้คนตัวเล็กทันทีอย่างรู้หน้าที่

    “ก็นายไม่ค่อยดูแลตัวเอง ชอบให้ฉันดูแลอยู่เรื่อย...” เสียงบ่นนุ่มทุ้มดังลอดออกมาจากกองไหมพรมสีฟ้าที่ชานยอลกำลังสวมกลับคืนไป
    จงแดได้แต่ยิ้มขำกับความท่ามากของเพื่อนทั้งสองคน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา

    “เป็นห่วงกันก็บอก มาทำเป็นแซะกันอยู่ได้ เพื่อนห่วงเพื่อนมันผิดตรงไหน หือ?”
    พอกัปตันบีเกิ้ลพูดเท่านั้น เด็กสองคนก็ถึงกับเป็นใบ้ ต่างคนต่างหันหน้าหนีกันคนละทาง แต่ใบหูของคนที่ยืนขนาบข้างคนพูดกลับแดงเรื่อ

    เอ้า... เขินกันเข้าไปอีก...

    ดีครับ... กัปตันเฉินมาทำอะไรตรงนี้ ไหนใครก็ได้ช่วยบอกที

    พูดเลย ว่าตอนนี้คนที่หนาวที่สุดก็คือคิมจงแดนี่แหละ หนาวจนสะท้านไปทั้งหัวใจ ใครก็ได้! ช่วยเอาชานยอลกับแบคฮยอนไปเขินกันไกลๆ เขาที!




      เวลาขณะนี้ Sun May 19, 2024 3:40 pm